เอจออฟเอ็มไพร์ส ประสบความสำเร็จในยอดขายทั่วโลก สามารถจำหน่ายได้มากกว่า 20 ล้านก็อปปี๊ ได้รับกระแสวิจารณ์เชิงบวก จากหลายสำนัก เช่น เกมแรงคิ้ง และ เมตาคริติค โดยที่ภาค 2 และ ภาค 3 นับว่าประสบความสำเร็จในยอดขายมาก โดยเฉพาะภาค 3 ได้รับคำชมจาก เกมสปาย ว่าเป็น "เกมส์เรียลไทม์แห่งปี 2005 " อีกด้วย
เนื้อเรื่อง
เริ่มต้นด้วยอารยธรรมหลายชนชาติซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ในแต่ละภาค โดยภาคแรกเกี่ยวข้องกับยุคโบราณ ภาคสองยุคกลาง และภาคสามยุคก่อน-หลังปฏิวัติอุตสาหกรรม หัวใจของเกมส์ คือ ทาวน์เซนเตอร์ (Town Center) เพราะเป็นสถานที่ที่ใช้สร้างยูนิต "พลเมือง" ซึ่งถือว่าพื้นฐานที่สุด และยังเป็นที่ใช้พัฒนายุค ซึ่งถือว่าเหมือนกันทุกภาค ทั้งภาค 1 ถึงภาค 3 นอกจากทาวน์เซนเตอร์แล้ว ยังมีบ้าน (House) ที่รองรับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทั้ง 3 ภาค จะจำกัดไว้ที่ 200 แต่ในภาคที่ 3 บางยูนิตอาจกินพื้นที่ประชากรมากกว่า 1 ยูนิต เช่น พลปืนใหญ่อาจกินไป 7 ที่ เป็นต้น จึงมุ่งหมายของเกมโดยหลักแล้วคือพัฒนาเมือง จากทรัพยากรต่างๆ รวมถึงสร้างกองกำลังให้แข็งแกร่ง ซึ่งในโหมด ผู้เล่นเดียว (Single Player) อาจสามารถปรับ วิธีชนะได้หลากหลายรูปแบบ
2. Battle Realms Gold Pack
เนื้อเรื่อง
อารัมภบท กาลครั้งหนึ่ง เนิ่นนานก่อนสมัยบรรพบุรุษของพวกเราทั้งหลาย ดินแดนยังคงเป็นปึกแผ่นหนึ่งเดียวกัน ดินแดนที่ชุ่มชื่นไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ดินแดนแห่งเนินเขาและแมกไม้เก่าแก่ มากมายไปด้วยผู้คนที่สวยงามแปลกตา บางคนเดินทางมาโดยเรือจากดินแดนไกลโพ้นและตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ บางคนสืบเชื้อสายมาจากชนชาวเขาที่สืบสายจากบรรพบุรุษอันมีประวัติที่ยาวนาน สงครามยังไม่เป็นที่รู้จัก มีแต่ความสงบปกแผ่ไปทั่ว ความสงบแห่งพลังและความอุดมสมบูรณ์
ครั้งนั้นไม่มีที่ใดที่จะรุ่งโรจน์ได้เทียบเท่ากับดรากอนโฮล์ม (Dragonholm) ดินแดนที่เผ่ามังกร (Dragon Clan) อยู่กัน เหล่าปฏิมากรที่ถูกลืมเลือนได้เคยสลักเสลาบันดาลให้กำแพงดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างเฉลียวฉลาด และสวยงามถึงขนาดชาวบ้านเชื่อกันว่ามันมีชีวิตจริง โชกุนที่ถูกลืมเลือนได้ตรากฎหมายที่ทั้งเข้มงวดและยุติธรรม เหล่าปรมาจารย์ที่ถูกลืมเลือนได้ฝึกฝนนักรบให้ชำนาญกลยุทธ์การต่อสู้ที่ลึกซึ้งและดุเดือด แม้แต่ปราชญ์ที่ฉลาดที่สุดยังเขียนเรื่องราวเอาไว้บนแผ่นหนังบุทอง เล่าขานถึงตำนานความเข้มแข็งและเกียรติศักดิ์ของพวกมังกรว่าจะอยู่ตราบชั่วกาลนาน......
.....และแล้ว เพียงชั่วข้ามปี - เพียงผ่านฤดูหว่านหนึ่งครั้ง ฤดูเก็บเกี่ยวหนึ่งครั้ง ฤดูหนาวหนึ่งครั้ง - ทุกอย่างก็มลายสูญสิ้น
ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันเป็นใคร เป็นปิศาจ หรือวิญญาณหรือสัตว์ประหลาด แม้ในตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ มันเป็นพวกอนารยชนหรือพวกฮอร์ด (The Horde) ดำทะมึน ป่าเถื่อน พวกมันมากันเป็นพันเป็นหมื่นจากดินแดนไกลโพ้น เลยออกไปจากเขตแดนทางเหนือ ดินแดนลี้ลับบนขุนเขา
ไม่ว่าพวกมันผ่านไปที่ใด ที่นั่นจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดรอดไปได้ แม้กระทั่งต้นไม้ยังเหี่ยวแห้งและตาย ไม่เหลือแม้กระทั่งซากศพให้ได้ฝัง
ทาร์แรนท์ผู้บิดา (Tarrant the Elder) เป็นผู้ปกครองดรากอนโฮล์มในสมัยนั้น และถือได้ว่าเป็นผู้กล้าคนหนึ่ง ทันทีที่ทราบเรื่องการคุกคามของพวกฮอร์ด ซามูไรที่หาญกล้าที่สุดของเขาก็รีบรุดออกไปโดยทันทีตั้งแต่ฟ้าสางเพื่อต่อสู้กับพวกมัน วีรบุรุษผู้กล้านับร้อยภายใต้ธงมังกรนับร้อยที่โบกสะบัด เป็นเวลาถึงสองอาทิตย์ นักรบคนแรกและเพียงคนเดียวได้กลับมาในสภาพสะบักสะบอมบนอานม้าของเขา คราบเลือดสีดำเกรอะกรังแข็งติดอยู่บนแผลฉกรรจ์ เนื้อขาดวิ่นไม่รู้กี่สิบแห่ง เขาตายซะแล้ว อย่างไรก็ตาม ม้าของเขาตะบึงห้อได้รวดเร็วพอที่จะหลบหลีกชะตากรรมของเจ้านายมันมาได้ ทาร์แรนท์ทราบในบัดดลว่าชาวมังกรทั้งหลายมีความหวังในการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ด้วยวิธีเดียวกันเช่นนี้เอง
อาทิตย์ต่อมา กำแพงแห่งดรากอนโฮล์ม กำแพงที่ไม่เคยทลายจากการรุกแม้แต่ครั้งเดียว ได้ถูกละทิ้งไป และชนชาวมังกรก็เริ่มออกเดินทางอันยาวไกลไปทางทิศใต้ หลายเดือนแห่งการเดินทางอันไม่หยุดหย่อนผ่านไป ขบวนม้าอันยิ่งใหญ่ เกวียนและผู้คนกลายเป็นผู้ลี้ภัยไปโดยปริยาย ผู้คนที่ตระหนักดีว่าชาวมังกรนั้นจะไม่หนีฝ่ายตรงข้ามแน่หากพวกเขาสามารถปราบฝ่ายปรปักษ์ได้ หลายคนที่ตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อปกป้องดินแดน พวกเขาจะได้รับเกียรติยศ ถึงแม้จะไม่มีใครได้ข่าวคราวจากพวกเขาอีกเลย หน่วยสอดแนมที่ถูกส่งไปทางเหนือ ไม่เคยมีใครหวนกลับมาอีกเลย และชาวมังกรก็ยังคงเดินทางมุ่งใต้ต่อไปเรื่อย ๆ
เมื่อสิ้นสุดเดือนที่หก ข้ามสันเขาลูกสุดท้าย พวกเขาก็พบกับมหาสมุทร สิ้นสุดแผ่นดินที่พวกเขาจะหนีต่อไปได้
แน่นอน ทาร์แรนท์ผู้บิดาย่อมคาดการณ์นี้ไว้แล้ว เขาได้ให้ปราชญ์ของเขาเตรียมอุบายสำหรับการหนีครั้งนี้เอาไว้ และระหว่างการเดินทางอันยาวไกลนั้น พวกเขาได้มีเวลามากมายในการถกเถียงและปรึกษาหารือกัน ขาดเสียแต่เวลาที่จะสร้างเรือและที่หลบซ่อน กองทัพส่วนสำคัญแห่งมังกรก็ได้ถูกทำลายย่อยยับไปในครั้งแรกที่ต่อสู้กับพวกอนารยชนซะแล้ว ความหวังสุดท้ายของทาร์แรนท์จึงอยู่ที่หีบขลิบเงินซึ่งวางล็อกอยู่ภายในเกวียนของเขาใบนี้เท่านั้น : ลูกแก้วอสรพิษ (The Serpent Orb) สมบัติเก่าแก่ล้ำค่าที่สุดของชาวมังกร รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์การเป็นผู้นำของเขาด้วย เล่าขานกันว่าลูกแก้วนี้สามารถเรียกวิญญาณแห่งมังกรได้หากความต้องการนั้นยิ่งใหญ่และมีความมุ่งมั้นมากพอ บางคนก็เชื่อเรื่องนี้ แต่ความต้องการนั้นใหญ่หลวงจริง ในขณะที่ผู้คนที่อิดโรยของเขากำลังตั้งรับมือกับพวกอนารยชนอยู่นั้น ทาร์แรนท์ได้ยกความเป็นผู้นำให้แก่ลูกชายของเขา คือทาร์แรนท์ผู้เป็นบุตร (Tarant the Younger) หลังจากนั้นเขาก็อยู่ตามลำพังเพียงผู้เดียว - เพื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และพร้อมที่จะสละชีวิต
ตราบจนวาระสุดท้ายของเขา ไม่มีผู้ใดได้เป็นประจักษ์พยาน เรารู้แต่เพียงว่าเขาประสบความสำเร็จ ผู้ลี้ภัยทั้งหลายที่รวมตัวกันได้ยินเสียงลั่นเปรี้ยงของความโกรธาแห่งมังกรดุจดั่งกำแพงอากาศที่บดขยี้ผู้คน ม้าและเกวียนให้แหลกไปกับพื้น ทั่วทุกหัวระแหง ดินแดนเหมือนกับบิดเบี้ยวไปด้วยความปวดร้าวทรมาน หลาย ๆ คนที่รอดพ้นมาจากการเดินทางอันแสนทรหดและยาวไกลถูกบดขยี้อยู่ภายใต้หินที่เป็นชั้นลดหลั่นกันลงมา หรือไม่ก็โดนธรณีสูบหายไป ที่เหลือรีบลุกลนเข้ากอดกันและสวดมนต์เพื่อขอให้รอดพ้น
เมื่อแผ่นดินไหวทุเลาลง ผู้รอดชีวิตจากความกริ้วโกรธาของมังกรต่างตัวสั่นงันงกไปด้วยความกลัว ทาร์แรนท์หนุ่มรวบรวมความกล้าของเขาทั้งหมด เริ่มจัดการก่อสร้างที่กำบังพักพิงจากเศษวัสดุที่ยังคงเหลืออยู่น้อยนิดขึ้นมา หากพวกอนารยชนหรือฮอร์ดเดินทางมาพบเข้าตอนนี้ล่ะก็ พวกเขาคงจะหมดหนทางต่อสู้เป็นแน่ แต่พวกมันก็ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นอีกเลย
ตอนนั้นเองทาร์แรนท์ได้สำรวจผู้คนที่ยังเหลืออยู่อย่างกระจัดกระจายและพบว่าพวกเขาหาใช่ชาวมังกรอีกต่อไปไม่ หากแต่เป็นอะไรบางอย่างในสายตาของเด็กไร้เดียงสาที่สูญเสียบ้านของตนให้กับปิศาจ เป็นอะไรบางอย่างในความคิดของนักรบที่ทราบว่าเพื่อนร่วมชาติที่กล้าหาญที่สุดของตนนั้นหาได้วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน หากได้ต่อสู้และสละชีพในสนามรบ พวกเขากลายเป็นทรัพย์ของดินมิใช่สรวงสวรรค์ กระนั้นพวกเขายังคงเข้มแข็งดุดันและมุ่งหน้าทำงานอย่างหนักด้วยความภาคภูมิใจเพื่อดินแดนแห่งใหม่ของเขา และจากความต่ำต้อยในครั้งนี้ผนวกกับความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จึงกำเนิดเผ่าอสรพิษ (Serpent Clan) ขึ้น เผ่าของเรา
ณ วันนี้ หากท่านเดินทางเลยขุนเขาต่าง ๆ ไกลขึ้นไปทางเหนือ ท่านจะไปถึงหน้าผาอันขรุขระมองลงไปเห็นช่องแคบอุบาทว์อันเต็มไปด้วยหินและซากปรักหักพังทับถมกันอยู่ ในวันที่อากาศแจ่มใส ท่านก็อาจเห็นรอบนอกของฝั่งตรงข้ามอย่างเลือนลางดั่งมีม่านหมอกปกคลุม ความโกรธาของมังกรได้พังทลายดินแดนนั้นรวมทั้งคนของเราด้วย และบ้านของบรรพบุรุษของเราก็ถูกทิ้งให้อยู่ฟากข้างโน้นของน้ำที่ไม่อาจข้ามผ่านไปได้ ไม่มีผู้ใดตอบได้ว่าพวกอนารยชน หรือพวกฮอร์ดยังคงรออยู่บนฝั่งด้านนั้นหรือไม่
เราคิดถึงเรื่องนี้น้อยลง ๆ ทุกที เพราะตอนนี้ที่นี่คือบ้านของเรา
3. Command & Conquer Red Alert 2 & Yuri's Revenge
เนื้อเรื่อง
ต่อเนื่องจากเกมในภาคที่แล้ว ที่มีซื่อว่า คอมมานด์ แอนด์ คองเคอร์ : เรดอเลิร์ท ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ ในภาคนี้ ได้ยิบจุดจบของเกมส์ในเนื้อเรื่องส่วนพันธมิตร โดยมีการอภิปรายในปี 1972 ว่า กลุ่มกองทัพสหรัฐ ได้ประกาศมาว่า มีกลุ่มสหภาพโซเวียด ได้ทำการบุกเข้ามา โดยใช้เครื่องบิน และเรือเดินสมุทรกองกำลังสะเทินน้ำสะเทินบกและพลร่มที่เข้ามาทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
ในขณะที่เกิดสงครามเรดอเลิร์ท 2 ยูริ แห่งสหภาพโซเวียต ได้แยกตัวออกมาเป็นอิสระ จากฝ่ายโซเวียต และได้สร้างโคลนของตัวเองมาเป็นจำนวนมาก และสร้างเครื่องควบคุมจิตใจของคนอย่างถาวร เรียกว่า Psychic Dominator
จากนี้เนื้อเรื่องจะเปลี่ยนเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของฝ่ายพันธมิตร และฝ่ายโซเวียตและเนื้อเรื่องจะเป็นเนื้อเรื่องที่ผู้เล่นเล่นเกม
เนื้อเรื่องฝ่ายพันธมิตร
เมื่อ Psychic Dominator สำเร็จแล้วที่เกาะอัลคาทราซ สหรัฐอเมริกา ขณะที่เริ่มเล่นแล้ว Psychic Dominator จะทำงานใน 1 นาที แต่ขาดพลังงาน (เนื่องจากโรงฟฟ้านิวเคลียร์ของโซเวียตที่ยึดมาเสียหาย ฝ่ายพันธมิตร จึงต้องใช้ Time Machine ย้อนไปในอดีต ก่อนที่ Psychic Dominator จะเสร็จสมบูรณ์ แต่พลังงานไม่พอ(เพราะว่าไม่มีที่ผลิตพลังงาน)จึงต้องไปยึดที่ผลิตพลังงานมา แต่ต้องพบกับกองทัพของยูริที่ขวางไว้ และ ปืนกลของยูริซึ่งพลังอำนาจแรง เมื่อทำลายได้แล้วจึงสามารถยึดได้ (โดยใช้วิศวกร) Time machine จึงทำงาน เมื่อข้ามเวลาสำเร็จจะเป็นเวลาเดียวกับที่โซเวียตจะนำกองเรือมาทำลาย Psychic Dominator ฝ่ายพันธมิตรจึงต้องปะทะกับฝ่ายโซเวียต เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายโซเวียตทำลายฐานของพันธมิตร เพื่อเปิดทางให้โซเวียตสร้างฐานได้ เมื่อทำลายกองเรือได้แล้ว สามารถนำทันย่า (หน่วยคอมมานโดพันธมิตร) ว่ายน้ำไปทำลาย Psychic Dominator ได้
เนื้อเรื่องฝ่ายโซเวียต
เริ่มเกม Psychic Dominator (ที่อัลคาทราซ) ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ต้องรอนับถอยหลัง ก่อน 10 นาที (ในเกมจะไม่มีนับถอยหลัง) กองเรือโซเวียตได้มาถึงแล้ว และต้องปะทะกับ ปืนใหญ่ของพันธมิตร(ในรูปแบบอิสระจะเป็นอาวุธพิเศษของฝรั่งเศส ฝ่ายพันธมิตร)และกองเรือพันธมิตร เพื่อให้สามารถยกพลขึ้นบกได้ หลังจากยกพลขึ้นบกสำเร็จแล้ว โซเวียตต้องทำลาย Pillbox ของพันธมิตรรอบๆ Time machine ได้ก่อน จึงจะสามารถยึดได้ และต้องไปยึดที่ผลิตพลังงานให้ได้จึงจะสามารถย้อนเวลาได้ แต่ว่า เมื่อข้ามเวลาสำเร็จ ได้ข้ามไปในยุคครีเตเชียส และต้องรอเวลา1นาทีในการข้ามเวลาอีกครั้ง ระหว่างนั้น ต้องต่อสู้กับไดโนเสาร์กินเนื้อ ข้ามเวลากลับไปอีกครั้ง ไปตามเป้าหมาย กองทัพโซเวียต จึงติดต่อกับฐานโซเวียตที่มาตั้ง จึงยกพลขึ้นเกาะอัลทาคราซ แลทำลาย Psychic Dominator
ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำตามภารกิจได้รับชัยชนะเรื่อยมาและต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับกองทัพยูริสำเร็จ
4. Cossacks The Art of War
เรื่องเล่า
ดร.อีริค เป็นหนึ่งในความคิดทางวิทยาศาสตร์ที่อัจฉริยะที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากการทดสอบเกิดการผิดพลาด ทำให้เกิดการระเบิดที่ทุงกุสกาและฆ่าภรรยาของเขา
10. Kingdom Under Fire Gold Edition
เกมมีฉากท้องเรื่องในเส้นเวลาสมมติระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 25 ของโลก โดยมุ่งไปยังสามสปีชีส์ที่แก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่ในส่วนห่างไกลของดาราจักรทางช้างเผือก ซึ่งเรียก ภาคคอปรูลู (Koprulu Sector) สามสปีชีส์นั้นได้แก่ เทอร์แรน (Terran) มนุษย์ซึ่งถูกเนรเทศจากโลก และมีทักษะการปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์, เซิร์ก (Zerg) เผ่าพันธุ์คล้ายแมลงต่างดาวที่แสวงความสมบูรณ์ของพันธุกรรม และหมกมุ่นกับการกลืนกินเผ่าพันธุ์อื่น และโพรทอส (Protoss) เผ่าพันธุ์คล้ายมนุษย์ซึ่งมีเทคโนโลยีล้ำหน้าและความสามารถพลังจิต โดยพยายามรักษาอารยธรรมของพวกตนและวิถีชีวิตปรัชญาเคร่งครัดจากพวกเซิร์ก
นักหนังสือพิมพ์ของอุตสาหกรรรมวิดีโอเกมจำนวนมากยกย่อง สตาร์คราฟต์ ว่าเป็นเกมที่ดีที่สุด และสำคัญที่สุด ตลอดกาลเกมหนึ่ง และว่าได้ยกระดับการพัฒนาเกมวางแผนเรียลไทม์ สตาร์คราฟต์เป็นเกมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขายดีที่สุดเกมหนึ่ง โดยจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 สามารถขายได้ 11 ล้านแผ่นทั่วโลก เกมยังได้รับการยกย่องจากการบุกเบิกการใช้กลุ่มแยกมีเอกลักษณ์ในการเล่นวางแผนเรียลไทม์ และเรื่องที่เร้าความสนใจ รูปแบบหลายผู้เล่นของสตาร์คราฟต์ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งผู้เล่นและทีมร่วมการแข่งขันอาชีพ ได้รับการสนับสนุน และแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์ สตาร์คราฟต์มีการดัดแปลงและขยายแนวเรื่องผ่านชุดนวนิยาย ภาคเสริม (expansion pack) สตาร์คราฟต์: บรูดวอร์ และตัวเสริม (add-on) ที่ได้รับอนุญาตอีกสองตัว อีก 12 ปีให้หลัง ภาคต่อ สตาร์คราฟต์ 2: วิงส์ออฟลิเบอร์ตี ออกในเดือนกรกฎาคม 2553
เรื่องย่อ
ฉากเนื้อเรื่อง
สตาร์คราฟต์ดำเนินเรื่องในจักรวาลบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ที่คริส เมทเซน (Chris Metzen) และเจมส์ ฟินนีย์ (James Phinney) สร้างให้บลิซซาร์ดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ตามเรื่องที่นำเสนอในคู่มือเกม จากที่ประชากรล้นโลกในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 ทำให้รัฐบาลระหว่างประเทศเนรเทศเผ่าพันธุ์มนุษย์บางส่วน เช่น อาชญากร พวกที่เสริมไซเบอร์เนติกส์ (cybernetically enhanced) และสายพันธุ์กลายไปตั้งนิคมในที่ไกลโพ้นของดาราจักร ความพยายามตั้งนิคมในระบบสุริยะใกล้เคียงเกิดผิดพลาด ส่งผลให้มนุษยชาติมาถึงภาคคอปรูลู ในภาคคอปรูลูของดาราจักรอันห่างไกล ผู้ถูกเนรเทศตั้งรัฐบาลขึ้นจำนวนมาก ทว่าไม่นานก็เกิดความขัดแย้งกัน สุดท้าย คอนเฟเดอราซีออฟแมน (Confederacy of Man, สมาพันธ์มนุษย์) รัฐบาลหนึ่ง ผงาดขึ้นเป็นกลุ่มแยกที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ธรรมชาติอันกดขี่และวิธีการปราบผู้เห็นแย้งอย่างป่าเถื่อนจุดชนวนการต่อต้านของกบฏครั้งใหญ่ในรูปกลุ่มก่อการร้าย ชื่อ ซันส์ออฟคอร์ฮอล (Sons of Korhal) ไม่นานก่อนเริ่มเกม ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2499 เผ่าพันธุ์ต่างดาวซึ่งมีเทคโนโลยีล้ำหน้าและพลังจิต โพรทอส ติดต่อมนุษยชาติครั้งแรกโดยทำลายโลกอาณานิคมของคอนเฟเดอราซีดวงหนึ่งโดยปราศจากการเตือนล่วงหน้าใด ๆ จากนั้นไม่นาน เทอร์แรนพบว่าเผ่าพันธุ์ต่างดาวที่สอง คือ เซิร์กคล้ายแมลง ลอบบุกรุกพื้นผิวของอาณานิคมเทอร์แรนหลายแห่ง และโพรทอสกำลังทำลายดาวเคราะห์เพื่อป้องกันมิให้เซิร์กลุกลาม คอนเฟเดอราซีที่ถูกคุกคามโดยสองเผ่าพันธุ์ต่างดาวและการกบฏภายในเริ่มพังทลาย
ตัวละคร
ผู้เล่นสวมบทบาทตัวละครนิรนามสามคนตลอดเกม ในองก์แรก ผู้เล่นเป็นพนักงานปกครองของสมาพันธ์แห่งมาร์ซารา (Mar Sara) โลกอาณานิคมอันห่างไกล ซึ่งถูกทั้งเซิร์กและโพรทอสคุกคาม และถูกเหตุการณ์บังคับให้เข้ากับกบฏ ซันส์ออฟคอร์ฮอล ภายใต้ผู้นำ อาร์กทูรัส เมงสก์ (Arcturus Mengsk) การทัพของเมงสก์ มีจิม เรย์เนอร์ (Jim Raynor) เจ้าพนักงานบังคับกฎหมายที่มีสำนึกศีลธรรมจากมาร์ซารา และซาราห์ เคอร์ริแกน (Sarah Kerrigan) มือสังหารพลังจิตและรองผู้บัญชาการของเมงสก์ ร่วมด้วย ภาคที่สองของเกม ผู้เล่นเป็นเซเรเบรท (cerebrate) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาในเซิร์กสวอร์ม (Zerg Swarm, ฝูง-) ผู้เล่นถูกเซิร์กโอเวอร์มายด์ (Zerg Overmind) ปกครอง โอเวอร์มายด์นี้เป็นการแสดงซึ่งพิชาน (consciousness) รวมแห่งสวอร์ม และปฏิปักษ์หลักของเกม และได้รับคำแนะนำจากเซเรเบรทอื่นที่มียศและสถานภาพสูงกว่าระหว่างทำภารกิจเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แห่งสวอร์ม ในส่วนสุดท้ายของสตาร์คราฟต์ ผู้เล่นเป็นเอ็กซีคิวเตอร์ (Executor, ผู้ปฏิบัติงาน) ในกองทัพโปรทอส รายงานต่ออัลดาริส (Aldaris) ผู้แทนของรัฐบาลโพรทอส อัลดาริสหมางใจกับเจ้าของตำแหน่งของผู้เล่นคนก่อน ทัสซาดาร์ (Tassadar) จากการสมาคมกับเซราตูล (Zeratul) สมาชิกกลุ่มมิจฉาทิฐิ ชื่อ ดาร์คเทมพลาร์ (dark templar, นักรบมืด)
โครงเรื่อง
เรื่องสตาร์คราฟต์นำเสนอผ่านคู่มือคำสั่ง บทสรุปย่อแต่ละด่านและบทสนทนาในด่านเอง ร่วมกับการใช้คัตซีนฉากที่จุดสำคัญ ตัวเกมแบ่งเป็นสามภาค ภาคหนึ่งผู้เล่นจะได้บังคับเผ่าพันธุ์หนึ่ง ในส่วนแรกของเกม ผู้เล่นและจิม เรย์เนอร์พยายามควบคุมอาณานิคมมาร์ซาราในห้วงที่เซิร์กโจมตีโลกเทอร์แรนอื่น หลังคอนเฟเดอราซีจับกุมเรย์เนอร์ฐานทำลายทรัพย์สินของสมาพันธ์ แม้ข้อเท็จจริงว่ามันถูกเซิร์กรังควาญแล้วก็ตาม ผู้เล่นเข้าร่วมกับอาร์กทูรัส เมงสก์และซันส์ออฟคอร์ฮอล เรย์เนอร์ซึ่งทหารของเมงสก์ปล่อยเป็นอิสระ ก็เข้าด้วยและร่วมทำภารกิจกับผู้เล่นบ่อย ๆ จากนั้น เมงสก์เริ่มใช้เทคโนโลยีของสมาพันธ์ที่ยึดได้บนมาร์ซาราล่อให้เซิร์กมายังที่ตั้งของสมาพันธ์และเดินหน้าเป้าหมายของเขาเอง หลังบีบให้เอ็ดมุนด์ ดุค (Edmund Duke) นายพลของสมาพันธ์ เข้ากับตนแล้ว เมงสก์สละรองผู้บัญชาการของเขา ซาราห์ เคอร์ริแกน เพื่อประกันการทำลายคอนเฟเดอเรซีโดยการล่อให้เซิร์กไปทาร์โซนิส (Tarsonis) เมืองหลวงของสมาพันธ์ เรย์เนอร์โกรธกับเป้าหมายที่แท้จริงของเมงสก์ในการได้มาซึ่งอำนาจไม่ว่าจ่ายราคาและสละเท่าใดก็ตาม และพากองทัพอดีตทหารอาสาสมัครอาณานิคมมาร์ซาราขนาดเล็กไปกับเขาด้วย เมงสก์จัดระเบียบประชากรเทอร์แรนที่เหลือใหม่เป็นเทอร์แรนโดมินเนียน (Terran Dominion, ราชอาณาจักรเทอร์แรน) และปราบดาภิเษกตนเป็นจักรพรรดิ
การทัพที่สองนั้นเปิดเผยว่า เคอร์ริแกนมิได้ถูกเซิร์กฆ่า แต่ถูกจับและติดเชื้อในความพยายามรวมลักษณะทางจิตของเธอเข้ากับยีนพูลของเซิร์ก เธอกำเนิดโดยมีพลังจิตและความแข็งแกร่งทางกายภาพสูงกว่าเดิมมาก ดีเอ็นเอถูกเปลี่ยนโดยสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน ทัสซาดาร์ ผู้บัญชาการโพรทอส พบว่าเซเรเบรทของเซิร์กไม่สามารถถูกสังหารด้วยวิธีการปกติ แต่จะถูกทำลายได้ด้วยพลังที่ดาร์คเทมพลาร์อันมีมิจฉาทิฐิมีอยู่ ทัสซาดาร์เป็นพันธมิตรกับดาร์คเทมพลาร์สูงศักดิ์ เซราตูล ผู้ลอบสังหารซาร์ซ (Zasz) เซเรเบรทหนึ่งของเซิร์กในกลุ่มรังบนดาวชาร์ (Char) มรณะของเซเรเบรทส่งผลให้กองกำลังของมันวิ่งอาละวาดทั่วรังของเซิร์ก แต่เชื่อมโยงจิตของเซราตูลกับเซิร์กโอเวอร์มายด์ครู่หนึ่ง ทำให้โอเวอร์มายด์ทราบที่ตั้งของดาวบ้านเกิดเมืองนอนของโพรทอส ไอเออร์ (Aiur) ซึ่งโอเวอร์มายด์แสวงมาหลายสหัสวรรษ ในที่สุด สวอร์มเซิร์กหลักบุกครองไอเออร์ทันที ขณะที่เคอร์ริแกนถูกส่งไปรับมือกับทัสซาดาร์ และแม้โพรทอสจะต้านทานอย่างหนัก แต่โอเวอร์มายด์ก็สามารถฝังตัวเองเข้ากับเปลือกดาวเคราะห์ได้
ในภาคสุดท้ายของเกม อัลดาริสและรัฐบาลโพรทอสตีตราทัสซาดาร์ว่าเป็นผู้ทรยศและคนนอกรีตที่สมคบกับดาร์คเทมพลาร์ เดิมผู้เล่นรับใช้อัลดาริสในการป้องกันไอเออร์จากการบุกครองของเซิร์ก แต่ระหว่างภารกิจไปจับกุมทัสซาดาร์ ผู้เล่นกลับเข้ากับเขาแทน สงครามกลางเมืองโพรทอสอุบัติขึ้น ซึ่งทำให้ทัสซาดาร์ เซราตูลและพันธมิตรของพวกเขาติดพันกับกลุ่มผู้ทรงอำนาจโพรทอส ดาร์คเทมพลาร์พิสูจน์คุณค่าแห่งตนเมื่อใช้พลังงานฆ่าเซเรเบรทเซิร์กอีกสองตนบนดาวไอเออร์ และที่ประชุมปรองดองกับพวกเขา โพรทอส ด้วยการสนับสนุนโดยกองกำลังของเรย์เนอร์ ผู้เข้าร่วมกับทัสซาดาร์บนชาร์ เจาะผ่านการป้องกันที่ถูกทำให้อ่อนแอลงของโอเวอร์มายด์และทำลายเปลือกชั้นนอกของโอเวอร์มายด์ได้ แต่ก็ได้รับความสูญเสียอย่างหนักเช่นกัน ทัสซาดาร์ส่งพลังจิตของเขารวมกับพลังของดาร์คเทมพลาร์ผ่านลำยานบัญชาการของเขา แล้วชนใส่โอเวอร์มายด์ สละชีพตนเพื่อทำลายมัน
13. The Lord of the Rings War of the Ring
นับแต่เซารอนสูญเสียพลังอำนาจไป เนื่องจากการสูญเสียแหวนเอกในสงครามแห่งพันธมิตรครั้งสุดท้าย ในคราวสิ้นสุดยุคที่สองของโลกอาร์ดา เขาได้ฟื้นฟูพละกำลังขึ้นใหม่ และซุ่มซ่อนอยู่ในโดลกุลดัวร์ หอไสยเวททางตอนใต้ของป่าเมิร์ควู้ด การสู้รบเริ่มมีขึ้นประปรายระหว่างบริวารของเซารอนกับพวกเอลฟ์ เมื่อเซารอนหวนกลับมาบารัด-ดูร์ และฟื้นฟูอำนาจของตนขึ้นใหม่ที่มอร์ดอร์ รวมทั้งเริ่มต้นการค้นหาแหวนเอก สงครามแหวนก็เริ่มขึ้นนับแต่นั้น ไปจนกระทั่งสิ้นสุดสงครามเมื่อโฟรโด แบ๊กกิ้นส์ สามารถทำลายแหวนเอกได้โดยโยนทิ้งไปในโอโรดรูอิน
14. Warcraft 2 Battle Net Edition
RTS 20 GAMES.zip
RTS 20 GAMES.rar
Keywords or Tags : Game, PC Game, เกมเก่าเล่าใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น