วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2560

OverLord / โอเวอร์ ลอร์ด จอมมารพิชิตโลก Season 1 (2015) ตอนที่ 1-13 ซับไทย จบปี 1 ตามด้วย Special และ OVA [SOUND : Japanese และ SUBTITLE : Thai]


เรื่องย่อ : กล่าวถึง ในปีค.ศ. 2126 เกม RPG ออนไลน์โลกเสมือน หรือ DRMMORPG (Dive Massively Multiplayer Online Role Playing Game) ชื่อดัง Yggdrasil ที่ต้องมาปิดตัวในวันหนึ่ง แต่ตัวเอกของเรื่อง โมมอนกะ ตัดสินใจที่ไม่ล็อกเอาท์ออกจากเกม เขาได้เปลี่ยนรูปร่างตัวเองเป็นร่างโครงกระดูก อาชีพเนโครแมนเซอร์ ในฐานจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วอาศัยอยู่ในโลกนั้น โลกนั้นค่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย โดยตัวละครที่ไม่สามารถบังคับได้ หรือที่เรียกว่า NPCs นั้นเริ่มมีความรู้สึกนึกคิด โมมอนกะจึงเลือกที่จะต่อสู้เพื่อปกครองโลกนี้และเปลี่ยนแปลงไปตามที่เขาต้องการ

Overlord ตอนที่ 1



ตอนที่ 1 : End and Beginning / 終わりと始まり

Yggdrasil เกมออนไลน์เสมือนจริง (DMMO-RPG: Dive Massively Multiplayer Online Role Playing game) ที่ได้รับยอดนิยมเมื่อสิบปีก่อนที่ให้อิสระในการสร้างตัวละครและกำหนดรายละเอียดต่างๆ เวลาผ่านไป เกมนี้กำลังจะปิดตัวลง

โมมอนกะ ผู้เล่นเนโครแมนเซอร์ในร่างของโครงกระดูก ได้อยู่ที่ห้องของกิลด์ Ainz Ooal Gown ที่ตั้งในสุสานนาซาริก กิลด์ที่เขาตั้งได้เลือกกลุ่มที่มีแต่สมาชิกที่มีอายุและเล่นเผ่าที่ไม่ใช่มนุษย์ โมมอนกะได้คุยกับเพื่อนเก่าที่กำลังออกจากเกมจนเพือนออกไป ส่วนตัวเขาจะอยู่จนกว่าเกมปิด

โมมอนกะรู้สึกเสียดายกับสิ่งที่ทำมาตลอดหลายปี ทั้งกิลด์และฐานที่พวกของเขาสร้างขึ้นที่กำลังจะหายไปหมด แต่ก็เข้าใจทุกคนล้วนแต่มีเรื่องที่ต้องทำในชีวิตจริงนอกเกม รวมถึงตัวเขาเองที่ต้องหางานทำ ทำให้เขาได้แต่นึกถึงความหลังและหยิบไม้เท้าของกิลด์ที่สมาชิกในกิลด์ร่วมกันทำขึ้นมาโดยใช้เวลานานไปด้วย

เขาได้มานั่งบัลลังก์ที่ชั้น 10 ในสุสานพร้อมพวก NPC ที่ไร้ชีวิตซึ่งถูกดีไซน์โดยสมาชิกในกิลด์ แล้วยังแก้รายละเอียดของ อัลเบโด ผู้บัญชาการในสุสานแห่งนี้ที่ตามสคริปต์ของเพื่อนเขาเขียนไว้อย่างละเอียดแต่จบท้ายที่เป็นพวกบิช เขาจึงลบแล้วแก้เป็น ให้รักโมมอนกะ แทน ซึ่งไม่คิดว่าจะส่งผลอะไร

เมื่อเวลาถึงเที่ยงคืน โมมอนกะพบว่าตัวเขายังอยู่ในเกม ตัวเลือกในเกมได้หลายไป และตัวละครที่สร้างขึ้นได้หันมาคุยกับเขาเหมือนชีวิตและความรู้สึก

โมมอนกะจึงทดสอบโดยขอจับหน้าอกของอัลเบโด ซึ่งสามารถจับได้ทำให้เขาแปลกใจที่เกมไม่ได้ห้ามการกระทำเช่นนี้ตามที่ควรจะเป็น ระหว่างที่คิดและลูบคลำจนลืมตัว ด้านอัลเบโดกลับพอใจและเข้าใจว่าโมมอนกะต้องการมีอะไรกับเขา ซึ่งคิดว่าเป็นไปตามสคริปต์ที่เขาเพิ่งเขียนไปที่ให้เธอรักเขา

ที่สนามประลองนั้น ตัวโมมอนกะพบว่ารอบสุสานที่กิลด์สร้างนั้นควรจะอยู่ในบึงแต่กลับกลายเป็นทุ่งกว้าง ทำให้เขาเริ่มเข้าใจว่าที่นี่ไม่ใช่เกม Yggdrasil และได้พูดคุยกับคนอื่นต่อ พร้อมลองทดสอบเรื่องเวทมนตร์โดยเรียก Flame Elemental มาสู้กับพวกผู้เฝ้าสุสาน

เขาไม่รู้ว่าตนจะกลับโลกเดิมได้ไหม แต่สำหรับตัวเขาที่ไม่มีใครที่ต้องเป็นห่วงในโลกที่จากมา ทำให้เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องกลับไปที่โลกเดิมกัน

เมื่อผู้เฝ้าสุสานในชั้นต่างๆ มารวมตัวกันและแนะนำตัว อัลเบโด ได้ถามคำบัญชาตามประสงค์ของโมมอนกะ

หมายเหตุ : Overlord ภาคทีวีอนิเมะเคยประกาศว่าจะมี 13 ตอนจบ ส่วน Light Novel ปัจจุบันวางจำหน่ายในญี่ปุ่นถึงเล่ม 9 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและยังไม่จบ (ส่วนมังงะเพิ่มรวมเล่ม 1 ในญี่ปุ่นไปช่วงเดือนก่อน)

Overlord ตอนที่ 2



ตอนที่ 2: Floor Guardians / 階層守護者

ช่วงแนะนำการ์เดี้ยนของชั้นต่างๆ เริ่มจากการทะเลาะระหว่างแชลเทียร์ (Shalltear) และออร่าที่แซวหน้าอกปลอมของเธอ ซึ่งก็ตามสคริปต์ที่สมาชิกของกิลด์ที่เคยสร้างไว้ซึ่งเป็นพี่น้องกัน จนโมมอนกะให้ทั้งสองหยุดทะเลาะกัน และพวกผู้เฝ้าสุสานชั้นๆ ตามก็มาครบกัน

โมมอนกะค่อนข้างลำบากใจกับท่าทางของพวกอดีต NPC ที่จริงจังกับหน้าที่จนหลบออกมา สร้างความประหลาดใจให้กับพวกลูกน้อง ระหว่างนั้นอัลเบโดกับแชลเทียร์มีการทะเลาะกันเรื่องโมมอนกะเล็กน้อยก่อนจะสงบศึกกันได้

โมมอนกะตั้งใจออกสำรวจข้างนอกตามลำพังโดยแปลงร่างเป็นอัศวินดำ ระหว่างนั้น เดมมิเอิร์จ (Demiurge) ได้เห็นจึงบอกไม่ควรออกไปตามลำพัง และเขาก็ตามไปด้วย

เมื่อมองบนฟ้าเห็นโลกกว้างที่ไม่เคยเห็นนั้น ทำให้เขาคิดว่ายังมีคนอื่นหลงมาบ้างหรือไม่ และถ้าคนในโลกนี้ได้ยินชื่อของ Ainz Ooal Gown ได้คงดี

ระหว่างนั้น รอบปราสาทถูกปกคลุมไปด้วยดินด้วยเวทมนตร์ของมาเร (Mare)

โมมอนกะลงไปที่ด้านล่างและมอบแหวน Ring of Ainz Ooal Gown ซึ่งเป็นไอเทมพิเศษที่เคยผลิตให้คนในกิลด์และยังเหลืออีก 58 วง

อัลเบโดมาพอดีและเห็นแหวนทำให้อารมณ์ดูเปลี่ยนไป โมมอนกะจึงมอบแหวนให้เธอ ระหว่างที่อัลเบโดสั่น เขาก็วาร์ปกลับชั้น 9 พร้อมเสียงร้องดีใจของอัลโบโดที่ดังไปทั่ว


อีกด้านมีกลุ่มทหารม้ากำลังเคลื่อนไหวอยู่

Overlord ตอนที่ 3



ตอนที่ 3: Battle of Carne Village

โมมอนกะใช้กระจกที่เคยใช้ส่องหาผู้เล่นภายในเกม Yggdrasil จนเขาได้พบคนที่กำลังประสบปัญหาในเมืองโดยบังเอิญ ถึงจะเพิกเฉยได้แต่โมมอนกะที่อ่านริมฝีปากคนที่เคราะห์ร้ายคนหนึ่งที่ต้องการให้คนช่วยเหลือลูกสาวของเขา ทำให้คิดบางอย่าง

ตัวโมมอนกะมองไปที่เซบัสเตียน ทำให้นึกถึง Touch Me (ทัชซัง) หนึ่งในสมาชิกรุ่นก่อตั้งกิลด์ ครั้งหนึ่งที่โมมอนกะเคยอยากเลิกเล่นเกม Yggdrasil เพราะถูกล่าจากผู้เล่นอื่นจากการเล่นเผ่าสเกเลตันในขณะที่เลเวลยังไม่สูง แต่เมื่อได้ยินที่ Touch Me พูด ทำให้เขามีกำลังใจที่จะสู้ต่อ

เขาจึงได้ใช้เวทเคลื่อนย้าย Portal เปิดประตูมิติไปได้ทุกสถานที่ แล้วมุ่งหน้าไปช่วยหญิงชาวเมืองกับน้องสาวที่เสียครอบครัวไปจากการรุกรานของพวกอัศวิน

โมมอนกะใช้เวทมนตร์ Grasp Heart เวทชั้นสูงของสายเนโครแมนเซอร์ทำลายหัวใจคู่ต่อสู้ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้มลงทันที ตัวเขาแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของตัวเองที่ไม่รู้สึกหวั่นไหวถึงความตายของคู่ต่อสู้ นอกจากร่างกาย ดูเหมือนหัวใจของเขาก็ห่างไกลความเป็นมนุษย์มากขึ้น

พวกอัศวินที่ตามมาถูกเล่นงานด้วยเวท Lightning Dragon ของเขา และไล่ฆ่าพวกอัศวินที่อ่อนแอลง จากนั้นใช้เวท Raise Death Knight เพื่อสร้างอัศวินแห่งความตายจากศพของทหารที่ถูกฆ่าสูงกว่าสองเมตร ให้ไปกำจัดพวกทหารที่ก่อความเดือดร้อนให้กับเมือง

อัลเบโดในชุดอัศวินดำได้มาสมทบอีกคน ด้านโมมอนกะหยิบยาฟื้นพลังขั้นต้นจากกระเป๋าของเขาเพื่อมอบให้คนพี่ที่ถูกฟัน แต่น้องสาวกลับให้ระวัง ทำให้อัลเบโดไม่พอใจนักจนจะฟันเธอ เขาจึงห้ามไว้ เมื่อเธอดื่มยาผลทำให้รักษาบาดแผลทันที เขาจึงอธิบายว่าเป็นผู้ใช้เวทมนตร์แล้วสร้างบาเรียป้องกันทั้งสองไว้

ก่อนจะมุ่งหน้าไปทางเมือง เธอได้ถามชื่อเขา โมมอนกะไม่ต้องการใช้ชื่อเดิมซึ่งเป็นอดีตหัวหน้ากิลด์ที่เสมือนตายไปแล้ว เขาจึงบอกชื่อตัวเองตามชื่อของสิ่งเดียวที่ยังคงเหลือในสุสานแห่งนาซาริค ในชื่อ Ainz Ooal Gown ซึ่งเป็นชื่อกิลด์ของเขา หรือเรียกย่อว่า ไอน์ซ (Ainz)

ด้านในเมืองพวกอัศวินที่จับชาวบ้านไว้เริ่มแตกตื่นกับเดธไนท์ที่ไล่ฆ่าอัศวินอย่างง่ายดายแล้วยังทำให้คนที่ถูกฆ่ากลายเป็นผีดิบเช่นเดียวกัน

Ainz หาข้อมูลจากชาวบ้านจึงทราบเรื่องดินแดนถึงจักรวรรดิ์บาฮารุธและอาณาจักรรีเอสไทน์ที่ขัดแย้งกันและหมู่บ้านนี้เป็นบริเวณชายแดนของทั้งสองอาณาจักรพอดี


ตัว Ainz แล้วได้คุยกับหัวหน้าอัศวินที่เพิ่งเดินทางมาถึงหมู่บ้านในช่วงเย็น เมื่อแนะนำตัวเอง ก็มีทหารมาแจ้งข่าวพูดถึงเงาจำนวนมากที่มุ่งหน้ามาทางหมู่บ้าน

Overlord ตอนที่ 4



ตอนที่ 4: Ruler of Death /死の支配者

กลุ่มของกาเซฟหัวหน้าอัศวินได้ฝากชาวบ้านให้กับ Ainz ที่น่าจะเชื่อใจได้ ก่อนเดินทางไปรับมือกับข้าศึกที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนั้น

กาเซฟ สังหารพวก Angel ทั้ง 6 ตนในดาบเดียวและใช้ท่าถนัดของเขาอีกท่าฆ่าพวกนั้น ถึงจะสังหารพวกนั้นได้ แต่ไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่ฆ่าผู้เรียกพวกนั้นออกมาก็ยังสามารถเรียกออกมาได้เรื่อยๆ

กองทหารของกาเซฟรับมือกับ Angel ไม่ไหวและล้มกันทีละคน ด้านกาเซฟเหน็ดเหนื่อยจากการใช้เทคนิคของเขาอย่างต่อเนื่อง

นิกัน ผู้บัญชาการของฝ่ายศัตรูพูดอย่างมีชัยจากการต่อสู้ กาเซฟจึงบอกว่าในหมู่บ้านยังมีคนที่แกร่งกว่าเขาอีก คำพูดจากปากของอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งอาณาจักรรีเอสไทซ์ ทำให้ฝ่ายศัตรูที่ไม่เชื่อ ด้านกาเซฟที่จะเข้าไปพลีชีพนั้นถูกประตูมิติส่งไปที่หมู่บ้านพร้อมพวกอัศวินโดยเป็นผลไอเทมที่ฝากไว้

ฝูง Angel ที่เล่นงาน Ainz ถึงจะโจมตีโดนกลับไม่ทำให้สะเทือนแม้แต่น้อย และเขายังกำจัดพวกนั้นได้ด้วยมือเปล่า ทั้งนี้เพราะผลของ Passive Skill ของเขา ทำให้การโจมตีกายภาพของพวกเลเวลต่ำนั้น ไม่ระคายผิวของเขาได้ (ซึ่งในเกมนั้น ต้องมีเลเวล 60 ขึ้นไปถึงจะมีผล)

Ainz ใช้เวท Negative Burst ทำลายพวก Angel ทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขาในการโจมตีครั้งเดียว พวกของนิกันยังกระหน่ำยิงเวทมนตร์นับสิบชนิดใส่เขา ถึงจะเข้าเป้าแต่ไร้ผล

กลุ่มทหารที่สับสนคนหนึ่งตัดสินใจใช้บอลเหล็กที่แขนเล่นงาน อัลเบโดไม่พอใจกับการโจมตีชั้นต่ำแบบนั้น จึงเข้ามารับแทนด้วยกำลังของเธอและสังหารคนที่ยิงบอลเหล็กนั้นจนไม่มีใครมองทัน

นิกันสั่งให้เทวทูตชั้นสูงของเขาโจมตีใส่ Ainz รับมือกับการโจมตี แล้วตอบโต้ด้วย Hellfire เปลวเพลิงสีดำสังหารเทวทูตนั้นลงทันที เทวทูตขั้นสูงที่ขึ้นชื่อด้านพลังป้องกันกลับถูกทำลายด้วยเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ทำให้นิกันช็อคกับสิ่งที่เห็น

สิ่งสุดท้ายที่เขาทำได้ คือ ให้ลูกน้องถ่วงเวลาไว้เพื่อใช้ไพ่เด็ดของเขาซึ่งเป็นคริสตัลที่ได้มา ทำให้ Ainz เริ่มระแวงที่อาจมีอะไรที่อันตรายในโลกนี้ที่เขายังไม่รู้จักจึงให้อัลเบโดเตรียมรับมือ

นิกันใช้เวทมนตร์อัญเชิญเทวทูตสูงสุดที่เขาสามารถเรียกออกมาได้ ทำให้ Ainz รู้สึกผิดหวังที่คิดว่าจะเจอเทวทูตระดับ Seraphim หรือน่ากลัวกว่านั้น

ฝ่ายตรงข้ามโจมตีด้วยลำแสงซึ่งเป็นเวทมนตร์ชั้นสูงกว่าที่มนุษย์จะใช้ได้ แต่ไม่ได้ผลกับ Ainz อัลเบโด้ต่อว่าพวกมนุษย์ชั้นต่ำที่คิดจะใช้ของแบบนั้นกับท่าน Ainz ได้

นิกันเข้าใจว่าทั้งสองเป็นเทพปีศาจในโลกนี้ที่พวกผู้กล้า 13 คนเคยผนึก จึงสั่งโจมตีอีกครั้ง Ainz ไม่ประมาทกับการโจมตีซ้ำจึงเริ่มโจมตีด้วยเวท Black Hole ทำให้เทวทูตหายสาบสูญไปไม่เหลืออะไรต่อหน้าทุกคนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน นิกันช็อคอีกครั้งกับพลังที่มากกว่าจอมปีศาจที่เขาเคยได้ยิน Ainz จึงย้ำชื่อของเขาอีกครั้ง


หลังจบเรื่องราวแล้ว เขาได้กลับสู่ฐานของเขา

Overlord ตอนที่ 5



Episode 5: Two Venturers

ระหว่างฟังอัลเบโด้รายงาน แชลเทียร์เข้ามาหาไอนซ์ เมื่ออัลเบโด้เข้ามาขวางทำให้ทะเลาะกันจนเริ่มแรงขึ้น ไอนซ์ให้ทั้งสองหยุด เขาต้องการเข้าไปในเมืองจึงให้อัลเบโด้ดูแล

ในเมืองไอนซ์อยู่ในชุดอัศวิน ใช้ชื่อปลอมว่า โมมอน และเธอเป็นผู้ติดตาม นาร์เบล  ตอนหาที่พัก ด้วยสัญลักษณ์นักเดินทางระดับทองแดงที่เป็นขั้นต่ำสุดทำให้เขาต่อรองเรื่องที่พักลำบาก ระหว่างเดินไปห้องพักมีคนมากวนเขาจึงใช้กำลังผลักไป

มีเสียงดังขึ้นจากผู้หญิงที่โต๊ะ เพราะเขาทำให้ขวดโพชั่นของผู้ที่บนโต๊ะอื่นแตก เธอจึงไม่พอใจและต้องการให้ชดใช้ด้วยเงิน ไอนซ์จึงมอบโพชั่นธรรมดาของเขาให้แทนซึ่งสีแดง

ไอนซ์ ต้องการสำรวจพื้นที่ จึงให้เมดเฝ้าสุสาน นาร์เบเรล ไปกับเขาด้วย ซึ่งเขากังวลว่าผู้เฝ้าสุสานคนอื่นจะทำอันตรายต่อมนุษย์ที่มองเหมือนสิ่งไร้ค่าสำหรับพวกปีศาจ เขาให้เธอเรียกเขาว่า โมมอนซัง แต่ลำบากสำหรับเธอ

เวริต้าที่คิดว่าเป็นโพชั่นราคาถูกได้พบกับหมอยา ลิซซี่ ที่ชำนาญและทราบว่าโพชั่นนั้นเรียกว่า เลือดของพระเจ้า ไอเทมระดับตำนานจนสงสัยว่าหามาจากไหน เธอยืนยันด้วยเวทมนตร์จนพบว่าเป็นของจริงและขอซื้อต่อด้วยราคา 32 เหรียญทอง

ด้านไอซน์หาภารกิจใน Guild ทำ แต่ก็ประสบปัญหาเพราะอ่านภาษาของโลกนี้ไม่ออกจนสุ่มเลือกภารกิจระดับมิธริลมา ทำให้โดนปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ ถึงจะอ้างว่านาร์เบลเป็นจอมเวทระดับสาม (ถือว่าสูงสุดในโลกนี้) ก็ไม่สามารถทำตามได้ เขาจึงขอภารกิจระดับทองแดงแทนแต่เขาก็ได้พบกับกลุ่มปาร์ตี้ที่ชวนเขาเข้าพวก

หัวหน้ากลุ่มดาบแห่งความมืดที่นำโดยปีเตอร์สโมค (อัศวิน), ลูกะลูต (เรนเจอร์), ไดน์ (Druid) และ นินยา เดอะ สเปลแคสเตอร์ ที่เป็นพวกมี “Talent” ไอซน์จำได้ว่าเคยได้ยินมาก่อนถึงพวกที่เกิดมาพร้อมความสามารถ เขายังพูดถึง เอนเฟรีย บาเรล (Enfrea Bareal) ที่มี Talent เหนือกว่าเขา ซึ่งเป็นผู้ใช้ไอเทมเวทมนตร์ได้ทุกอย่างแม้แต่ของที่มนุษย์ใช้ไม่ได้

พวกเขาอยากเห็นหน้าโมมอน จึงเผยให้เห็น โดยเขาใช้เวทมนตร์ลวงตาไว้ก่อนทำให้ไม่ทราบว่าเขาเป็นอันเดด ระหว่างนั้นมีภารกิจพอดี โดยว่าจ้างจากเอนเฟรีย ส่วนนาร์เบลถูกหยุดไม่ให้ใช้ความรุนแรง

ไอนซ์สงสัยว่าทำไมถึงเลือกเขา ด้านเอนเฟรียให้เหตุผลว่าคนที่เขาจ้างไม่อยู่แล้วและเขาต้องการพวกนักผจญภัยระดับทองแดงที่ค่าจ้างราคาถูก

ที่สุสาน คลีเมนไทน์ อดีตสมาชิกของ Black Scripture ได้พบ คาจิ หนึ่งใน 12 แกนนำขององค์กรลับชั่วร้ายซูรานอน (Zuranon) เธอได้สร้อยจากเจ้าหญิงมิโกะมา เขาเข้าใจถึงอันตรายของไอเท็มชิ้นนั้น แต่มนุษย์เพียงหนึ่งในหมื่นที่จะสามารถใส่ของชิ้นนั้นได้ทำให้เหมือนเป็นของไร้ค่า


เธอต้องการให้เขาช่วยเพราะได้ยินว่ามีคนที่มี Talent ตั้งแต่เกิดในเมืองที่น่าใช้ไอเทมชิ้นนี้ได้ ถึงจะไปจับตัวได้เองแต่เธอต้องการทำอะไรที่มากกว่านั้น ทำให้เขาสนใจถึงความอลหม่านที่จะเกิดขึ้นจากเรื่องนี้และจะช่วยเธอเต็มที่

Overlord ตอนที่ 6



ตอนที่ 6: Journey / 旅路

โมมอนและนาเบล ออกเดินทางพร้อมคณะไปยังป่า มีการพูดถึงราชาแห่งป่าที่น่าเกรงขามในระแวงนี้

ที่สุสาน อัลเบโดพักในห้องของไอนซ์ โดยบอกกับดีเมิร์กที่สงสัยว่าต้องการให้กลิ่นของเธอติดในห้องของเขาถึงดีเมิร์กจะทราบว่าอันเดดอาจไม่ได้นอนบนเตียงก็ตาม แล้วยังมีหมอนข้างลายไอนซ์ที่เธอทำขึ้นเอง เธอพูดถึงเรื่องหลายอย่างสำหรับลูกของเธอกับไอนซ์ ดีเมิร์กจึงให้คำแนะนำกับเธอเรื่องชุด

ระหว่างคุยกันมีการแซวโมมอนกับนาร์เบลเหมือนคู่รัก ทำให้นาร์เบลหลุดปากเรื่องของอัลเบโด้ให้คนอื่นได้ยิน

มอนสเตอร์เข้าโจมตีกลุ่มของโมมอน พวกคนในปาร์ตี้สามารถสู้กับพวกนั้นได้อย่างสูสีแต่ลำบากในการล้มแต่ละตัวโดยเฉพาะตัวใหญ่

ในขณะที่โมมอนไม่ได้แสดงท่าทางกังวล และใช้ดาบฟันมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ลงได้อย่างง่ายดาย นาร์เบลใช้เวทสายฟ้าระดับ 3 กำจัดสนับสนุน จนพวกมอนสเตอร์นั้นล่าถอยไป

ตอนค่ำ มีการตั้งแคมป์ค้างแรมและพูดคุยกันระหว่างทาง พวกโมมอนแยกกลุ่มไปในระหว่างทานอาหารและพูดคุยกับนาร์เบล


ฝั่งคลีเมนไทน์ยังเพิ่มจำนวนผีดิบให้คาจิท ซึ่งด้าน คาจิท นั้น มีซอมบี้ภายใต้การควบคุมนับร้อยตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับแผนการในครั้งนี้ ระหว่างคุย เธอฉวยโอกาสเล่นงานเขาแต่มีดของเธอไม่สามารถเล่นงานเขาซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำขององค์กรมืดได้ ก่อนจะเดินจากไป ในขณะที่คาจิทรู้สึกว่าคลีเมนไทน์ที่เป็นคนที่มีฝีมือแต่นิสัยไม่แน่นอนนั้น เป็นคนที่รับมือยาก

Overlord ตอนที่ 7



ตอนที่ 7: Wise King of Forest / 森の賢王

กลุ่มคนในปาร์ตี้มีความแคลงใจกับไอนซ์เล็กน้อย ซึ่งเขาทราบดีว่าอันเดดนั้นใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ยาก

ที่ใกล้เมือง Carne ได้พบกำแพงหนาที่สร้างขึ้นและก็อบลินที่หน้าทางเขา เอ็นฟีเรียได้พบกับเอ็นรี่ โมมอนทราบว่าเป็นพวกที่ถูกอัญเชิญมาจากเขาของขุนพลก็อบลินที่เคยมอบให้ไว้ พวกนั้นได้ปกป้องเมืองมีความเปลี่ยนแปลงในเมืองให้รับมือกับศัตรูที่อาจบุกมาได้ทุกเมื่อ

ด้านเอ็นรี่ที่ปลอดภัยจากเหตุการณ์ครั้งก่อน ได้เล่าเรื่องของท่านไอนซ์ให้เอ็นฟีเรียฟัง เมื่อพูดถึงโพชั่นสีแดงที่รักษาอาการบาดเจ็บของเธอทันที ทำให้เขาทราบว่าโมมอนกับไอนซ์เป็นคนๆ เดียวกันแล้วไปขอบคุณเขา นาร์เบลแสดงท่าทางไม่เหมาะสมนักกับพวกมนุษย์ เมื่อเธอจะชดใช้ด้วยการใช้ดาบนั้น ไอนซ์ให้เธอหยุด

ระหว่างหาสมุนไพรในป่าที่อาจได้พบราชาแห่งป่าที่กล่าวถึง ไอนซ์ ได้พบกับสมุนของเขา ออร่า ในป่า หลังจากที่เธอไปเรียกมันออกจากถ้ำ ราชาแห่งป่าได้มุ่งหน้าไปทางเขา ซึ่งร่างจริงของมันเป็นเหมือนหนูแฮมเตอร์ในเกม Yggdrasil ที่เป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งเขาไม่คิดว่าจะพบสิ่งที่คล้ายกันในโลกนี้ มันมีหางเป็นงูและพูดภาษามนุษย์ได้โดย

ถึงมันจะมาพร้อมความมั่นใจ แต่ไอนซ์ยื่นดาบไปใช้สกิล เซ็ตสึโบ ออร่า (Despair aura) Level 1 ทำให้มันหวาดกลัว ล้มลงและยอมจำนนทันที พวกคนในปาร์ตี้เห็นตัวจริงของราชาแห่งป่า กลับรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของมันและชมที่เขา

หลังจบการเดินทางกับปาร์ตี้ ไอนซ์ได้รับราชาแห่งป่าเป็นลูกน้องและขี่มันในเมืองแบบไม่เต็มใจนัก เขาคิดว่าน่าจะตั้งชื่อมันว่า แฮมสุเกะ


เมื่อเอ็นฟีเรียกลับบ้านพร้อมกับสมาชิกในกลุ่มที่จ้าง พบว่าบ้านมืดและไม่เห็นยายของเขา คลีเมนไทนต์ได้รอเขาอยู่ที่บ้าน

Overlord ตอนที่ 8



ตอนที่ 8 : Twin Swords of Slashing Death / 死を切り裂く双剣

โมมอนที่ขี่แฮมสึเกะอยู่ในเมืองได้พบกับลิซซี่ ยายของเอ็นฟีเรีย หลังแนะนำตัว เธอต้องการให้เขาตามเธอมาด้วยอย่างเร่งรีบ

ที่บ้านที่เงียบสงบ พวกโมมอนกะพบว่าปาร์ตี้ของโมมอนกะถูกฆ่าเกือบหมดแล้วกลายเป็นผีดิบลุกมาโจมตีพวกเขา โมมอนจำเป็นต้องฆ่าพวกนั้น

ในขณะที่เอ็นฟีเรียหายไปและไม่พอตัว หลังปรึกษากันพวกโมมอนจึงเตรียมค้นหาเขาในเมืองนี้

โมมอนได้รับการติดต่อจากเมดเซต้า แต่ยังไม่ว่างที่จะคุย แล้วใช้ม้วนคัมภีร์ในการค้นหาตำแหน่งต่อจนพบตำแหน่ง และมุ่งหน้าไปที่นั่น

ที่ใกล้สุสาน มีผีดิบจำนวนมากเข้ามาโจมตีทหาร พวกโมมอนกะเข้าต่อสู้กับพวกนั้นตามลำพัง ทั้งล้มตัวใหญ่ที่บุกเข้ามาได้แล้วเดินฝ่าพวกนั้นไปหาคนที่อยู่เบื้องหลัง

เขาให้นาร์เบลที่ใช้เวทมนตร์ในการบินแบกแฮมสึเกะข้ามกำแพงมาด้วย ก่อนจะถูกทิ้งไว้บนต้นไม้ในภายหลัง

ถึงนาร์เบลต้องการใช้เวทมนตร์จัดการพวกนั้นรวดเดียว แต่โมมอนกะอ้างเหตุผลที่ให้เธอระวังตัวและสู้ด้วยความสามารถปกติ

ระหว่างนั้น โมมอนเรียกอันเดดระดับกลาง Jack the Ripper และ Cadaver Collector พร้อมกับเรียกพวกระดับต่ำมาเคลียร์ทาง

ด้านโมมอนเดินไปจนพบคาจิทและพรรคพวกที่กำลังร่ายอาคมอยู่ อย่างไรก็ตามโมมอนทราบว่ายังมีคนรอโจมตีเขาอยู่ คลีเมนไทน์จึงปรากฏตัวขึ้น

โมมอนกะต้องการเห็นบางอย่างใต้ผ้าคลุมของคลีเมนไทน์ ทำให้เธอหยอกเขาก่อนจะเปิดผ้าคลุม ชุดของเธอประดับด้วยสร้อยคอจำนวนมากของนักผจญภัยแทบทุกระดับจนถึง Orichalcum (เกือบสูงสุด) จากคนที่เธอฆ่าและกลายมาเป็นเหมือนเหรียญรางวัลของเธอ

โมมอนต้องการสู้กับคลีเมนไทน์จึงเรียกเธอไปสู้ที่อื่นและเธอไม่ขัดจึงเดินตามเขาไป


นาร์เบลสู้กับคาจิทและใช้เวทมนตร์เล่นงานพวกของเขาทั้งหมด ยังคงเหลือเพียงคาจิทที่รับมือได้ ด้านโมมอนหลังฟังคลีเมนไทน์พล่ามมาตลอดทางก็เตรียมพร้อมที่จะสู้กับเธอ

Overlord ตอนที่ 9



ตอนที่ 9: The Dark Warrior / 漆黒の戦士

นาร์เบลใช้เวทมนตร์สู้ ด้านคาจิทจึงใช้ไพ่เด็ดของเขา บอลสีดำในมือได้เรียกมอนสเตอร์ออกมา คือ Skeleton Dragon มังกรกระดูกที่ต้านทานเวทมนตร์ 2 ตนและมั่นใจว่าชนะนาร์เบลได้

นาร์เบลสู้กับคาจิทที่ใช้เวทมนตร์ สนับสนุนและป้องกันตัวอยู่เรื่อยๆ จนเธอเริ่มรำคาญ แต่เนื่องจากความสามารถถูกจำกัดจึงสู้กับมังกรทั้งสองลำบาก ด้านมังกรโดนตอบโต้ด้วยกำลังจนทำให้คาจิทสงสัยถึงพลังของเธอที่จะต่อกรพลังระดับพระเจ้า แต่เธอก็ตอบโต้เรื่องที่เธอถูกสร้างมาด้วยสมาชิกของกิลด์ซึ่งเป็นผู้ที่เหลือกว่าพระเจ้า

ไอนส์ทราบถึงความลำบากของนาร์เบลที่ไม่มีทางชนะพวกนั้นได้ด้วยพลังที่ถูกจำกัดไว้ จึงให้เธอแสดงพลังในฐานะพวกของนาซาริค

นาร์เบรัล แกรมม่า ใช้เทเลพอร์ตลอยขึ้นไปบนฟ้า แสดงตนในชุดเมดแห่งนาซาริค และวาร์ปเข้าเล่นงานร่างของคาจิท จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนย้ายกลับไปที่บนฟ้า

Skeleton Dragon ถึงจะป้องกันเวทมนตร์จนเหมือนจะได้ผล แต่ความจริงตั้งแต่เวทระดับ Tier 6 ลงมาเท่านั้น ซึ่งเธอสามารถใช้ได้สูงยิ่งกว่านั้น (ในบางเงื่อนไขจะใช้ได้ถึง Tier 10) นาร์เบรัลใช้เวทมนตร์ Chain Lightning เข้าจัดการ สายฟ้าขนาดใหญ่ทรงมังกรเข้าทำลายมังกรกระดูกจนเป็นซาก ทำลายผลงานตลอด 5 ปีของคาจิทและพุ่งดับชีวิตของเขาลงจนเหลือแต่เถ้าถ่าน

ด้านโมมอนลำบากกับคลีเมนไทน์ที่เชี่ยวชาญ ด้านการต่อสู้ระยะประชิดด้วยความเร็ว ในขณะที่โมมอนสวมเกราะและไม่ได้ใช้เวทมนตร์ต่อสู้ ขาดความสามารถของนักรบ จึงไม่ต่างจากการเหวี่ยงดาบไปมาเท่านั้น

โมมอนจึงปักดาบไว้ที่พื้น และอ้าแขนรับ สร้างความสงสัยให้กับคลีเมนไทน์ แต่เธอไม่มีความจำเป็นต้องหนีจึงเข้าไปสู้หวังปลิดชีพเขาด้วยมีด ถึงจะถูกตอบโต้ด้วยการกอดแต่เธอซ้ำด้วยเวทมนตร์สายฟ้าที่ผนึกไว้

สร้างความประหลาดใจให้เขาได้เล็กน้อยเท่านั้นเพราะในเกม Yggdrasil ไม่มีระบบอาวุธเวทมนตร์

การโจมตีเข้าจุดตายที่ศีรษะไม่มีผลกับโมมอน ใบหน้าใต้หมวกแสดงออกมาทำให้เธอทราบว่าเขาเป็นพวกอันเดด

คลีเมนไทน์ทราบดีว่าโมมอนกำลังจะฆ่าเขา ถึงจะดิ้นและใช้ฟันกัดจนหักก็ดิ้นไม่หลุด สุดท้ายเธอถูกแรงบีบของโมมอนทำลายกระดูกสันหลังของเธอจนเสียชีวิต

หลังจากนั้น โมมอนได้ช่วยเอ็นฟีเรียที่โดนจับตัวไปโดยทำลายไอเทมต้องคำสาปบนศีรษะเขา แล้วพากลับเมืองพร้อมคนอื่น

หมายเหตุ : (หลัง ED) ผลงานที่ช่วยเมืองและเอ็นฟีเรียของโมมอนและนาร์เบล ทำให้ทั้งสองได้เลื่อนขั้นเป็นระดับ Mithril ซึ่งน้อยกว่าที่เขาหวังไว้ว่าน่าจะไปได้ถึง Orichalcum

* ลำดับยศ : Copper, Iron, Silver, Platinum, Mithril, Orichalcum และ Adamantium


ระหว่างคุยกับนาร์เบล อัลเบโดติดต่อมาเพื่อแจ้งข่าวสั้นๆ ว่า แชลเทียร์ได้ก่อการกบฏ

Overlord ตอนที่ 10



ตอนที่ 10: True Vampire / 真祖

ย้อนไปก่อนหน้าที่ Ainz จะทราบเรื่องนั้น Sebas Tian และ Solution สวมบทบาทเหมือนพวกพวกลูกสาวของชนชั้นสูงในเมืองที่มาพร้อมกับคนรับใช้ ทำเสียงโวยวายในร้านอาหาร ทั้งนี้เป็นแผนการเพื่อทำให้มีคนเข้ามาสนใจเธอ

คำสั่งที่ Shalltear ที่ต้องการหาข้อมูลจากพวกอาชญากรที่อยู่ในเมือง รวมถึงเก็บศพไปทำผีดิบเพื่อเพิ่มปีศาจให้กับสุสานนาซาริค

เมื่อพบรังของพวกโจร Shalltear เข้าไปด้านในและสังหารพวกนั้นด้วยตนเอง จนได้พบกับ Brain ที่เขามาปะทะเธอ ถึงจะสู้กับสมุนของเธอได้ แต่เมื่อเห็นพลังของเธอก็หนีเอาชีวิตรอดด้วยความหวาดกลัว

Shalltear ตามไปเรื่อยๆ สังหารพรรคพวกเขาระหว่างทาง จนพบว่าถ้ำที่ไม่น่ามีทางออกกลับมีทางหนี Brain จึงหนีไปได้ ระหว่างนั้นพวกเธอแจ้งถึงอีกกลุ่มที่ปรากฏแถวนั้น

พวกนักเดินทางที่ตรวจตราแถวนั้น ถูก Shalltear ตรงเข้าเล่นงานและสังหารจนเกือบหมดจนพบว่ามีคนที่มีโพชั่นสีแดงขว้างใส่เธอ (Ainz เคยให้ไว้) เมื่อตามไปเค้นความจริงด้วยการสะกดจิต ทำให้ทราบปัญหาอีกอย่างว่ามีพวกเรนเจอร์สอดแนมอยู่ตลอด

ทำให้เธอกังวลเรื่องที่ Ainz ให้ปิดบังตัวเอง จึงเรียกหมาป่าตามไป แต่ก็ถูกบางอย่างฆ่า

Shalltear ตามไปที่นั่น จนพบศัตรู (กลุ่มของ Black Scripture) เธอรู้สึกว่าแข็งแกร่งกว่ากลุ่มก่อนหน้านี้ (เหนือกว่า Solution Epsilon เมดแห่งกลุ่ม Pleiades เลเวล 57) แต่ยังไม่ใช่คู่มือของเธอ

ระหว่างบล็อคการเข้ามาของเธอ มีการใช้ไอเทมบางอย่างกับ Shalltear (เพื่อควบคุม) เมื่อ Shalltear รู้สึกว่าไอเทมนั้นมีผลกับเธอ ทำให้เธอรีบเล่นงานพวกนั้นโดยเร็ว

ในขณะที่ด้าน Ainz ที่กลับถึงสุสาน ยังสงสัยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Shalltear โดยที่เขาไม่ทราบเหตุผล


หมายเหตุ : ทีวีอนิเมะเรื่อง Overlord มีจำนวน 13 ตอนจบ

Overlord ตอนที่ 11



ตอนที่ 11 : Confusion and Understanding / 混乱と把握

Ainz ใช้พลังของ Crystal Monitor เพื่อชี้ตำแหน่งของ Shalltear ตามที่เขาต้องการ ก่อนที่ Ainz จะมุ่งหน้าไปหา Shalltear เขาได้รับการติดต่อเร่งด่วนจาก Narberal เพื่อแจ้งสถานการณ์

ด้าน Narberal ได้แจ้งเขาเรื่องมีคนมาขอให้นักเดินทางระดับมิธริลช่วยเหลือในการสู้กับแวมไพร์ ทำให้ Momon ตัดสินใจรับงานนี้โดยไม่ให้คนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยอ้างว่าไม่ต้องการเพิ่มผู้รับเคราะห์ ทำให้นักเดินทางระดับเดียวกันเห็นด้วยกับเขา และกำชับที่อันตรายถึงชีวิตถ้าตามเขามา

กลุ่มของ Kralgra ที่สะกดรอยไป ทำให้พวก Albedo และ Mare ต้องจัดการพวกนั้นเพื่อปิดปากตามคำสั่งของ Ainz

ด้าน Shalltear ยืนนิ่งรอการโจมตีใส่ผู้ที่เข้าใกล้ Ainz จึงรักษาเธอโดยใช้แหวนในมือของเขา Shooting Star แต่ผลของแหวนกลับล้มเหลวทำให้ทราบว่า Shalltear ถูกเล่นงานด้วยไอเทมระดับ World Class จึงถอยกลับไปก่อน

Ainz ไปที่คลังสมบัติของนาซาริคพร้อมกับ Albedo, Yuri Alpha และ CZ2128 Delta (Shizu) ทำให้เธอประหลาดใจที่ได้พบกับ Tabula Smaragdina ผู้สร้างเธอแต่ก็ทราบว่าเป็นตัวปลอม Pandora’s Actor แสดงร่างแท้จริง ซึ่งเป็นพวก Sharpshifter จำแลงร่างได้ ผู้เฝ้าคลังซึ่งเป็น NPC ที่ Ainz สร้างด้วยตัวเอง เพื่อถามเรื่องไอเทมระดับ World Class 200 ชิ้น แต่ Pandora’s Actor กลับทราบเพียง 11 ชิ้นที่กิลด์ Ainz Ooal Gown ครอบครองเท่านั้น

เมื่อเห็นท่าทางของ Pandora’s Actor ที่พูดภาษาเยอรมัน ยิ่งทำให้ Ainz อายมากขึ้น (แต่แสดงทางสีหน้าไม่ได้) เพราะเป็นผลงานสมัยเขายังอยู่ในวัยช่างเพ้อฝัน (จูนิเบียว)

Ainz ขอแหวนกิลด์คืนจาก Albedo อ้างว่าจะถูกโกเล็มซึ่งเป็นกับดักชั้นในเล่นงานคนใส่แหวน ทำให้เธอไม่ต้องการเสียของล้ำค้าชิ้นนั้นไป จนต้องคุยกัน

มีการพูดถึงรูปปั้นของสมาชิกกิลด์ 41 คน Albedo ไม่ต้องการให้เขาพูดเหมือนเขาจะจากไปเหมือนผู้สร้างคนอื่น เขาจึงเช็ดน้ำตาให้เธอ เขาไม่ต้องการเสียไอเทมระดับ World Class ที่มีพลังระดับเปลี่ยนแปลงเกมที่มี 20 ชิ้นในเกมไปโดยไม่จำเป็น และไม่ต้องการเสี่ยงให้การ์เดี้ยนคนอื่นสู้กับ Shalltear ที่แข็งแกร่งมากในหมู่ผู้พิทักษ์สุสานด้วยกัน

Ainz จึงตั้งใจจะหยุด Shalltear ที่แข็งแกร่งด้วยตัวเองด้วยการฆ่าเธอเสียและไม่มีใครเหมาะกับหน้าที่มากกว่าเขาอีกแล้ว

หลังพูดจบ Albedo จึงไม่รั้งเขาไว้อีก และ Ainz ให้สัญญากับเธอตามที่ต้องการ ว่าจะฆ่า Shalltear และกลับมาหาเธอ


เพิ่มเติม : ช่วงแรกเทียบกับนิยาย ข้ามช่วงแนะนำ Nigredo พี่สาวของ Albedo ที่อยู่ในชั้น 5 ของสุสานไป (ตามภาพด้านล่าง) ซึ่งเธอจะเป็นคนให้ Crystal Monitor แต่บท Nigredo ก็มีแค่นั้นและไม่มีบทเพิ่มในนิยายถึงเล่มปัจจุบัน ก็น่าจะตัดไป

Overlord ตอนที่ 12



ตอนที่ 12: The Bloody Valkyrie / 鮮血の戦乙女

Ainz สั่ง Aura และ Mare ให้เฝ้าบริเวณหน้าผาไว้ ในสุสาน Demiurge ไม่เห็นด้วยที่ Ainz ไปคนเดียวและทราบดีว่าเขาโกหกเรื่องที่สู้คนเดียวจะสะดวกกว่า ไม่ว่ายังไงการรุมน่าจะชนะเธอได้ง่ายยิ่งกว่า

Albedo ปฏิเสธความคิดของ Demiurge ที่คิดจะยื่นมือเข้าไปยุ่ง ทางขึ้นไปชั้น 7 ถูกล็อคหมดและให้ทุกคนเชื่อฟังคำสั่ง เธอเชื่อว่าเขาจะกลับมาทำให้ Demiurge เริ่มโมโหมากขึ้น ถ้า Ainz เป็นอะไรไป เธอจะต้องรับผิดชอบด้วยการปลดตัวเองจากตำแหน่งหัวหน้าการ์เดี้ยน ทำให้ Cocytus ไม่พอใจ Demiurge อีกคน

เมื่อถามนักรบที่แข็งแกร่งอย่าง Cocytus ให้เขาประเมินโอกาสที่ชนะ ตัวเขาประเมินว่า Ainz น่าจะมีโอกาสที่ชนะ Shalltear เพียง 30% เท่านั้น

พอไปถึง Ainz เตรียมพร้อมโดยเตรียมเวทมนตร์ต่างๆ เขาเตรียมเปิดการโจมตีด้วยเวทมนตร์ที่เหนือระดับ 10 ของเขา (ผู้เล่น Level 100 มีได้ 4 สกิล) ระหว่างนั้นเขายังเตรียมสิ่งที่เหมือนนาฬิกาที่มีเสียงทักทายเป็นเด็กผู้หญิง และม้วน Scroll ต่างๆ ไว้ที่เอว

Ainz เริ่มโจมตีใช้เวทมนตร์ขั้นสูงสุดที่เหนือกว่าขั้น 10 ของเขา “Falldown” โจมตีใส่ Shalltear แสงสว่างทำลายล้างพื้นที่โดยรอบ ถึงจะสร้างความเสียหาย ความรุนแรงนั้นไม่ถึงกับฆ่า Shalltear ได้ในครั้งเดียว แล้วทำให้เธอหันมาเล่นงานเขา ถึงจะยังเรียกเขาว่า ซามะ แต่ถึงเธอจะไม่เข้าใจเหตุผลมากนักว่าทำไมถึงต้องสู้กับท่าน Ainz เพราะยังได้รับผลของไอเทมในการควบคุมม เธอจึงรู้เพียงว่าต้องโค่น Ainz ที่โจมตีเธอเท่านั้น

การต่อสู้เป็นไป อย่างยากลำบาก Ainz ต้องรีบเอาชนะก่อนที่ MP เขาจะหมดลง แต่ Shalltear ยังคงรับมือเขาได้เรื่อยๆ และตรวจสอบมานาที่ Ainz ยังเหลืออยู่ แต่ยังแคลงใจกับผ้าคลุมกระจอกของเขาทั้งที่ควรใส่ไอเทมระดับ Divine

เธอหลบการโจมตีของเขาด้วยการเทเลพอร์ตย้ายสถานที่อย่างต่อเนื่อง Ainz เริ่มจับทางได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถล้ม Shalltear ได้

เมื่อเช็คและเห็น MP สำหรับใช้เวทมนตร์ของ Ainz น้อยลงเรื่อยๆ เธอจึงเริ่มเป็นฝ่ายบุกมากขึ้นและสร้างร่างโคลนด้วยสกิล Einherjar มาช่วยต่อสู้

ไม้เด็ดของ Ainz คือ สกิลเฉพาะของอาชีพ Eclipse “The goal of all life is death” สกิลที่ทำให้เวทแห่งความตายที่ใช้จะแสดงผลช้าไป 12 วินาที แต่ผลของสกิลจะไม่สามารถต้านทานได้แม้จะป้องกันเวทมนตร์สมบูรณ์แบบแค่ไหนก็ตาม เขาใช้คู่กับสกิล Cry of the Banshee เวทที่ทำให้ตายทันทีในระยะกว้าง 200 เมตร

เมื่อ Ainz ถ่วงเวลาจนนาฬิกาเดินครบ 12 วินาที สกิลทำงาน ผลของสกิลสลายทุกสรรพสิ่งในระยะดับสลายจนหมดสิ้นในรัศมี 200 เมตร กลายเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่


(ช่วง ED) แต่เหมือนผู้สร้าง Shalltear ได้เตรียมรับมือท่านี้ไว้ ทำให้เธอยังรอดมาได้ Ainz จึงยอมรับว่าเขาแทบไม่เหลือ MP พอใช้เวทมนตร์รุนแรงได้อีกแล้ว Shalltear คาดการณ์ถึงเวทขั้นสูงแบบ Falldown ก็โค่นเธอตอนนี้ไม่ได้ จึงมั่นใจว่าจะโค่นผู้ยิ่งใหญ่แบบ Ainz ได้

Overlord ตอนที่ 13 (ตอนจบ)



ตอนที่ 13: PVN / Player  vs Non player character

หลังพูดคุยกัน เรื่องที่เขาคาดการไว้หลายอย่าง จนทำให้ Shalltear โมโห เธอจึงโจมตีใส่ Ainz เขาจึงได้ใช้เวท Perfect Warrior เปลี่ยนคลาสของเขาเป็นนักรบ และเป็นเกราะของ Touch Me ทำให้พวกการ์เดี้ยนที่ดูในฐานต่างตกใจกับแผนของเขาเช่นกัน

เขายังมีดาบคาตานะที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเกราะของเธอได้ ซึ่งเป็นดาบระดับ Divine ของ Takemikazuchi MK 8 ของยอดนักรบในกิลด์ Ainz Ooal Gown

Shalltear เข้าแลกกับดาบโดยสละแขนซ้ายของเธอเพื่อเปิดช่องว่างโจมตีใส่ Ainz แต่ก็ไม่ได้ผล เขาใช้ของเพื่อเรียกไอเทมมาอีก

เมื่ออยู่ระยะห่าง เขาโจมตีระยะไกล Ainz ยังใช้ธนูโฮ้วอี้ (Houyi’s Bow) ซึ่งเป็นอาวุธของ Peroroncino ผู้สร้าง Shalltear ซึ่งเป็นการโจมตีด้วยศรเวทมนตร์ทำให้การป้องกันทั่วไปไม่สามารถรับได้และเธอไม่เหลือ MP มากพอที่จะป้องกัน สร้างความประหลาดใจให้กับเธอมากขึ้นที่เขานำอาวุธเหล่านี้ออกมาใช้ได้ แต่ก็สังเกตว่าเขาหักบางอย่างทิ้ง

Shalltear เริ่มสับสนมากขึ้น พวก NPC ไม่ได้รู้ข้อมูลมากเท่าผู้เล่นทั่วไป ทำให้เธอเริ่มสับสนกับรูปแบบโจมตีของเขาและแผนของเขา

อย่างไรก็ตาม Shalltear กระหน่ำโจมตีในระยะใกล้ใส่เขาอย่างไม่ยั้ง และมั่นใจเรื่องที่จะลด HP ของ Ainz ลงจนหมดได้ก่อนจนเสียงนาฬิกาข้อมือดังเตือน และ HP ของเธอเหลือประมาณ 25% Ainz เปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้เป็นป้องกันและถือโล่แทนเพื่อรับการโจมตีจากเธอ Shalltear เห็นนาฬิกาทรายที่มือเขาและสัมผัสได้ว่าอันตราย แต่ก่อนจะหลุดการทำลายนาฬิกาทรายของเขา เธอสัมผัสบางอย่างจากด้านหลัง ทำให้ชะงักไป

ผลจาก Cash Item ที่พังไป ทำให้ Ainz ใช้เวท Falldown แสดงผลอีกครั้งโดยมี Ainz เป็นศูนย์กลาง คลื่นความร้อนสีขาว ทำลายทุกอย่างโดยรอบและทำลายร่างของ Shalltear ที่สรรเสริญเขาก่อนจะไหม้เป็นจุลไป

Aura ที่เฝ้าสังเกตอยู่ห่างๆ ดูเศร้าเล็กน้อยกับความตายของ Shalltear

ที่ท้องพระโรงในสุสานนาซาริค Ainz เตรียมทำพิธีคืนชีพให้ Shalltear แต่เป็นการคืนชีพครั้งแรกในโลกนี้ และไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะล้างผลของ World Class Item ลงได้ ทำให้เตรียมพร้อมในกรณีผิดพลาด

Shalltear คืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้งโดยใช้เงินจำนวนหนึ่ง เมื่อเช็ครายชื่อพบว่าชื่อเธอปรากฏตามปกติ ผลของไอเทมไม่ตามมาด้วย ถึงจะไม่รู้ว่าใครเป็นคนใช้ไอเทมในเธอแต่ Ainz ตั้งใจจะเล่นงานพวกนั้นเมื่อพบ

เธอจำอะไรไม่ค่อยได้ถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อให้เช็คร่างกาย เธอส่งเสียงร้องทำให้ทุกคนตกใจ แต่เป็นเพราะเรื่องหน้าอกของเธอที่ไม่ได้ซ่อนขนาดไว้ ทำให้คนอื่นโมโห ด้าน Ainz เห็นพวก NPC ทะเลาะกันแล้วชวนนึกถึงสมาชิกเก่าที่สร้างพวกนี้ขึ้นมา

การเสริมแนวป้องกันของนาซาริค Albedo มีการพูดถึงศพของมนุษย์ที่รวบรวมได้ ซึ่งสร้างผีดิบระดับต่ำเท่านั้น แม้แต่ศพของ Sunlight Scripture ก็ได้เพียงระดับ 40 ซึ่งเป็นข้อจำกัดของเผ่ามนุษย์ เธอจึงเสนอเรื่องที่ Aura ไปพบหมู่บ้านเผ่า Lizardman อยู่ไม่ไกล เธอจึงเสนอให้บุกรุกและไปกวาดล้างพวกนั้น ….

เพิ่มเติม : …. มีการกล่าวถึงด้านต่างๆ เรื่องของ Ainz ที่มีคนไปบอกถึงฝั่งศัตรู, หมู่บ้าน Carne ที่พัฒนามีกำแพงล้อมรอบป้องกันการรุกราน, Sebas Tian ที่ยังออกเดินทางปฏิบัติภารกิจ, Gazef ได้พบ Brain ที่ยังช็อคจากการหนีแวมไพร์มา

Momon ที่กลับมาจากการสู้กับแวมไพร์ทั้งที่พวกนักเดินทางระดับมิธริลที่ตามไปถูก ฆ่าตายเรียบ จนคนที่ไม่ได้ตามไปรู้สึกว่าโชคดีที่เชื่อเขา ทำให้เขาถูกยกย่องจากผลงานนั้น จนเลื่อนเป็นนักเดินทางขั้น Adamantite ได้ฉายาว่า “Dark Hero” จนเป็นที่ยกย่องทั้งเมือง ส่วนนาร์เบลถูกเรียกว่า “The Beautiful Princess” แต่ไม่มีภารกิจให้เขาในขณะนี้

เมื่อห่างผู้คน ด้าน Ainz ติดต่อให้เรียก Victim (ผู้เฝ้าชั้น 8 ที่ยังไม่มีบท) และรอ Cocytus กลับมา หลังจากนั้นจะให้พวกผู้เฝ้าสุสานเคลื่อนพลครั้งใหญ่

ภาพอื่นๆ : 
1. albedo shalltear end



Overlord Movie



Overlord อนิเมะฉายในโรงภาพยนตร์ เป็นภาคสรุปเนื้อหาของภาคทีวีอนิเมะที่ฉายช่วงกรกฎาคม – กันยายน 2558 (Summer 2015) เนื้อหาแบ่งเป็นสองภาค

Part 1 : Overlord: Fushisha no Ou / Overlord: The Undead King เริ่มฉาย 25 กุมภาพันธ์ 2017


Part 2 : Overlord: Shikkoku no Senshi / Overlord: The Dark Warrior เริ่มฉาย 11 มีนาคม 2017

Overlord Season 2





Overlord ประกาศทำภาคต่อ Season 2

หลังฉายจบ Overlord Movie ในวันที่ 11 มีนาคม 2017 ได้มีการยืนยันเรื่อง Overlord ผลิตซีซั่น 2 ต่อ โดยมีการยืนยันจากทางทวิตเตอร์ของเว็บไซต์หลักเช่นกันว่าจะมีภาคต่อแน่นอน

สำหรับภาคมูฟวี่ เป็นการ Recap เนื้อหาใน Overlord ภาคทีวีอนิเมะซีซั่น 1 โดยแบ่งฉายเป็นสองภาค คือ Overlord: Fushisha no Ou (The Undead King) เริ่มเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2017 และต่อด้วย Overlord: Shikkoku no Senshi (The Dark Warrior) เริ่มฉาย 11 มีนาคม 2017

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มูฟวี่ Sword Art Online:Ordinal Scale เคยประกาศภาคใหม่หลังฉายในโรงจบเช่นกัน ส่วนอนิเมะใหม่ที่มีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ของทาง Madhouse มีหลายเรื่อง อย่าง Mahouka Koukou no Rettousei Movie: Hoshi wo Yobu Shoujo ที่ฉาย 17 มิถุนายน ปีนี้ และ No Game No Life Zero ที่ฉายภายในปี 2017 ก็ติดตามกันต่อไปว่าจะมีประกาศภาคต่อหรือเปล่า



Thanks To SevenSechs!
**12. http://festyy.com/wq6fsk (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://twineer.com/2xQF (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://yamechanic.com/Aloq (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)

Thanks To ACE-Z&MunashiiKaze-FS!
**1. http://ceesty.com/wwRdY8 (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)http://ceesty.com/wwRjtd (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://yamechanic.com/AeM7 (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://yamechanic.com/AeQH (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**2. http://ceesty.com/wwRP6h (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)http://ceesty.com/wwTqBI (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://yamechanic.com/AeK3 (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://yamechanic.com/AeL0 (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**3.
**8. http://brisktopia.com/Bs0k (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)http://brisktopia.com/Bs7Z (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**9. http://brisktopia.com/CTGl (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**10.

Thanks To Darknessz!
**6. 

Thanks To Tyrant-FS
**4. http://gestyy.com/wezDgr (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://adfoc.us/23923565909706 (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://adfoc.us/23923565909717 (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / ลิงค์เสีย
**6. http://festyy.com/wq7ydB (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://twineer.com/2xpV (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://adfoc.us/23923565693948 (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**7. http://festyy.com/wq7t9U (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://twineer.com/2xla (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**11. http://festyy.com/wq7tNk (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**13. http://festyy.com/wq6j0R (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://twineer.com/2xNk (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ) / http://yamechanic.com/AluG (OK ดาวน์โหลดได้ตามปกติ)
**14. 
**15.

Thanks To Kenhoshisaki
**12.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น